การดิ้นรน
ทุกๆ แห่งรอบๆ ตัวเรามีการเกิดขึ้นและสูญส
ทุกๆ แห่งรอบๆ ตัวเรามีการเกิดขึ้นและสูญส
ดังนั้นเรามาพิจารณาว่าความอยากเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งของความไร้ระเบียบหรือไม่ เราต้องสำรวจดูความอยาก ไม่ประณามมัน ไม่หนีจากมัน ไม่พยายามกดข่มมัน ศาสนาส่วนมากสอนว่า 'จงกดข่มความอยากเอาไว้' ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าขัน ดังนั้นขอให้เราสำรวจดูว่าความอยากคืออะไร ขอให้ถามคำถามนี้กับตัวคุณเอง บางทีพวกเราส่วนใหญ่อาจไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย เราพากันยอมรับว่าเป็นวิถีชีวิต เป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของชายหรือหญิง ดังนั้นเราจึงพูดว่า 'ไปยุ่งกับมันทำไม' บรรดาผู้คนที่สละทางโลก ผู้ที่เข้าไปสู่อาราม และอื่นๆ พยายามแปรเปลี่ยนความอยากไปเป็นการบูชาสัญลักษณ์หรือตัวบุคคล กรุณาระลึกไว้ด้วยว่าเราไม่ได้ประณามความอยาก แต่เรากำลังพยายามค้นหาคำตอบว่าความอยากคืออะไร ทำไมมนุษย์จึงติดอยู่ในกับดักหรือข่ายใยของความอยากมาเป็นเวลาหลายล้านปี ไม่เพียงแต่กายภาพแต่ทางด้านจิตใจด้วย
มันน่าเสียใจอย่างยิ่ง หากท่านไม่พบว่าความรักที่แท้นั้นเป็นอย่างไร หากท่านยังไม่รู้จักความรักในตอนนี้ ท่านก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักมันอีกแล้ว เพราะเมื่อท่านมีอายุมากขึ้นความรักจะกลายเป็นสิ่งน่าเกลียดจะกลายเป็นความรู้สึกเป็นเจ้าของ จะกลายเป็นสินค้าสำหรับซื้อขาย แต่หากท่านเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ที่จะมีความรักอยู่ในใจ ท่านรักต้นไม้ที่ท่านปลูก รักสัตว์ที่ท่านเลี้ยง เมื่อท่านเติบใหญ่ขึ้น ท่านก็จะไม่ต้องมีชีวิตอยู่ในห้องแคบๆ ด้วยหน้าต่างแคบๆ แต่สามารถจะออกจากห้องนั้นและสามารถรักชีวิตทั้งหมดได้
แต่มนุษย์ทำอะไรได้บ้าง คุณและผมสามารถทำอะไรได้บ้างในการสร้างสรรค์สังคมที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เรากำลังถามตัวเราเองถึงปัญหาที่จริงจังมาก มีอะไรที่จะต้องทำบ้างหรือไม่ เราสามารถทำอะไรได้บ้าง จะมีใครบอกเราบ้างไหม ผู้คนได้บอกเรา ท่านได้บอกเล่าแก่เราโดยพยายามหล่อหลอมเราให้เข้าสู่แบบอย่างอันใหม่ และแม้เช่นนั้นก็ไม่ได้นำเราไปถึงไหน ผู้ที่เชี่ยวชาญและได้รับการศึกษาได้บอกเล่าแก่เรา แต่นั่นก็หาได้พาเราก้าวหน้าต่อไปไม่ เราได้รับการบอกกล่าวว่าวิถีทางทั้งมวลนำไปสู่สัจจะ คุณมีทางของคุณในฐานะที่เป็นชาวฮินดูและผู้อื่นก็มีวิถีทางของเขาในฐานะที่เป็นชาวคริสเตียน และอีกคนก็เป็นมุสลิม และทุกคนจะพบกันที่ปากประตู สัจจะไม่มีหนทาง และนั่นเองเป็นความงามของสัจจะ สัจจะคือการมีชีวิต สิ่งที่ตายไปแล้วมีหนทางเข้าสู่มันได้เพราะมันนิ่งอยู่กับที่ แต่เมื่อคุณเห็นว่า สัจจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตชีวา เคลื่อนไหวไม่มีที่พำนัก ไม่มีมัสยิดหรือโบสถ์ ซึ่งไม่มีศาสนา ไม่มีครูหรือปรัชญาเมธี ไม่มีใครสามารถนำทางคุณเข้าสู่สัจจะได้ เมื่อนั้นคุณจะเห็นด้วยว่า สิ่งที่มีชีวิตชีวานี้คือ สิ่งที่คุณเป็นอยู่คือความโกรธของคุณ ความโหดร้ายของคุณ ความรุนแรงของคุณ ความผิดหวังของคุณ ความปวดร้าวทรมาน และความโศกเศร้าที่คุณอยู่กับมัน การเข้าถึงเรื่องราวทั้งหมดนี้คือสัจจะ และคุณจะเข้าใจมันได้ก็ต่อแต่เมื่อคุณรู้ว่าจะมองสิ่งเหล่านั้นในชีวิตของคุณได้อย่างไร และคุณไม่อาจมองมันผ่านทางแนวความคิด ผ่านทางม่านแห่งภาษา ผ่านทางความหวังและความกลัวได้
เรามักคิดว่าสิ่งนี้เป็นความเพ้อฝันซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นได้ แต่ข้าพเจ้าไม่ได้พูดถึงความเพ้อฝันซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระ ตัวท่านและข้าพเจ้าซึ่งเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา จะไม่สามารถมีชีวิตอย่างสร้างสรรค์อยู่ในโลกนี้โดยปราศจากความทะเยอทะยานในลักษณะต่างๆ เช่น ความปรารถนาอำนาจ หรือปรารถนาตำแหน่งได้เชียวหรือ คำตอบที่ถูกต้องจะปรากฏแก่ท่านเมื่อท่านมีความรักที่แท้จริงในสิ่งที่ท่านทำอยู่ หากท่านเป็นวิศวกรเพียงเพื่อว่าท่านจะหาเงินทองมาเลี้ยงชีวิต หรือเพราะพ่อของท่านได้คาดหวัง สิ่งเหล่านี้เป็นลักษณะหนึ่งของการบังคับและการบังคับไม่ว่าจะลักษณะใด จะสร้างความรู้สึกโต้แย้งหรือความรู้สึกตรงข้ามทั้งสิ้น แต่เมื่อท่านรักในการเป็นวิศวกร หรือนักวิทยาศาสตร์ หรือปลูกต้นไม้ หรือวาดรูป หรือเขียนกวี และไม่ต้องการยกย่องสรรเสริญ แต่เพราะท่านมีความรักในสิ่งเหล่านั้นอย่างแท้จริง เมื่อนั้นเองที่ท่านจะพบว่าท่านไม่นึกแข่งขันกับใครเลย ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นกุญแจที่สำคัญยิ่ง และโดยแท้จริงแล้วนี่ก็คือการที่ท่านมีความรักอย่างลึกซึ้งกับสิ่งที่ท่านทำอยู่นั้น